แทบน็อค!! ขอไปนอนบ้านแฟน คืนนั้นลุกเข้าห้องน้ำ ได้ยินเสียงแปลกๆจากห้องแม่แฟน ฉันแง้มประตูดูเท่านั้นแหละ ชีวิตฉันเปลี่ยนไปตลอดกาล

loading...



ฉันกับเอรู้จักและทำงานที่เดียวกัน เราคบกันมาได้ 2 ปีแล้ว ปีนี้ฉันอายุ 32 ปีพอดี จึงคิดว่าก็น่าจะถึงเวลาแล้วที่เราสองคนจะได้แต่งงานกัน เพราะหากปล่อยไว้แบบนี้ฉันอาจแก่เกินกว่าจะมีลูกแล้ว ถึงแม้ว่าแฟนจะไม่ได้เป็นคนร่ำรวยอะไร แต่เขาก็ขยันทำมาหากิน และพอเลี้ยงดูแลฉันได้ ฉันจึงตัดสินใจบอกเขาว่าถึงเวลาที่เราควรแต่งงานกันได้แล้ว…

แต่ปัญหาก็คือถึงแม้จะคบกันมาได้ 2 ปีกว่าแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยแนะนำฉันให้ครอบครัวรู้จักเลย มีอยู่หลายครั้งที่เขาบอกว่า แม่เขายุ่งมากจึงไม่สามารถมาเจอฉันได้ ส่วนพ่อของเขาเสียชีวิตไปตั้งแต่เด็กแล้ว เมื่อใกล้ปีใหม่ฉันจึงบอกเขาว่า “ ช่วงวันหยุดยาวฉันจะกลับบ้านไปเยี่ยมแม่ของเธอพร้อมกัน” ตอนแรกเขาปฏิเสธ เขาอ้างต่าง ๆ นา ๆ แต่ฉันให้คำขาดว่า ถ้าไม่ให้ฉันไปด้วยก็เลิกกัน เขาจึงยอมให้ฉันไป

เมื่อไปถึงบ้านของเขาก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าแม่ของเขา ยังดูสาวและสวยอีกทั้งยังแต่งตัวดูดีและทันสมัยอีกด้วย เธอแต่งหน้าจนดูไม่ออกเลยว่า เธออายุ 45 ปีแล้ว ช่วงเวลาที่พักอยู่บ้านแฟน แม่ของเขาจะออกไปข้างนอกตอนกลางคืนทุกวัน และกลับมาในตอนเช้า บางวันก็มีผู้ชายขับรถมาส่ง ซึ่งฉันสังเกตเห็นว่าผู้ชายที่มาส่งในแต่ละวันไม่เคยซ้ำหน้ากันเลย


 

มีอยู่วันหนึ่งตอนเช้าตรู่ ขณะที่ฉันกำลังลุกออกเข้าห้องน้ำ ก็บังเอิญได้ยินเสียงร้องดังจากห้องนอนแม่ เมื่อฉันแง้มประตูออกจึงพบว่าแม่ของแฟนกำลังมีอะไรกับผู้ชายแปลกหน้าที่ฉันไม่รู้จัก และก็ไม่ใช่ผู้ชายที่มาส่งเธอเมื่อวานอีกด้วย ด้วยความตกใจฉันจึงวิ่งกลับมาที่ห้องแล้วบอกแฟน จนแฟนของฉันสารภาพว่า แม่เขาทำงานเป็นผู้หญิงขายบริการมาตั้งนานแล้ว ซึ่งมีอยู่หลายครั้งที่ลูกค้าประจำจะเสนอตัวขับรถมาส่งถึงที่บ้าน และตัวเขาเองก็เกิดมาโดยที่ไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อ ฉันตกใจมาก แต่หลังจากตั้งสติได้ ก็รู้สึกนับถือตัวแฟนมากขึ้นกว่าเดิม เพราะถึงแม้ว่าเขาจะเป็นลูกไม่มีพ่อและเกิดจากหญิงขายบริการ แต่ก็สามารถส่งเสียตัวเองจนเรียนจบได้

หลังจากนั้นวันนั้น เมื่อพ่อแม่ของฉันถามว่าครอบครัวของแฟนเป็นอย่างไร ฉันก็ตอบไม่ถูกเลย เพราะถ้าฉันบอกความจริงไป พ่อก็คงไม่อนุญาตให้แต่งงานแน่ ๆ จึงจำเป็นต้องปกปิดความลับนี้ตลอดไป แต่ไม่มีปัญหาอะไร เพราะแม่ของแฟนก็ไม่มีโอกาสได้พบเจอครอบครัวฉันเท่าไรอยู่แล้ว จนหลังจากนั้นไม่นานเราทั้งสองคนก็ได้จัดงานแต่งงานกัน ตอนนี้เรามีลูกด้วยกัน 1 คนแล้ว ฉันคงต้องเก็บความลับนี้กับลูกอีกด้วย เพราะคงไม่ดีแน่ถ้าหากลูกรู้ว่าย่ามีอาชีพเป็นโสเภณี

จริง ๆ แล้วไม่ว่าอดีตหรือเบื้องหลังของใครจะเป็นอย่างไร ก็ไม่สำคัญเท่ากับสิ่งดี ๆ ที่เขาได้ทำในปัจจุบัน ! แชร์บทความนี้ แล้วถามเพื่อนดูว่าคิดอย่างไรเถอะ!


loading...

ที่มา:www.siamdrama


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คลิก ที่ลูกสอน ดู หน้าถัดไป